พิชญบัณฑิต : ทีมโรงเรียนสู่อคาเดมีเบอร์ 1 ภาคอีสาน

พิชญบัณฑิต : ทีมโรงเรียนสู่อคาเดมีเบอร์ 1 ของภาคอีสาน

“4-0” เป็นสกอร์ที่ สถานที่เรียน พิชญบัณฑิต กลุ่มแชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้อย่างกินขาด ในศึกบอลเยาวชน ช้าง จูเนียร์ คัพ 2019

พิชญบัณฑิต

สกอร์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว บางทีอาจสร้างความแปลกใจไม่น้อย ด้วยเหตุว่าอาจไม่มีผู้ใดรู้สึกว่า กลุ่มสถานศึกษา จากจังหวัดเล็กๆในภาคพระอาทิตย์เฉเหนือ จะล้มเยาวชนกิเลนลำพอง ด้วยปริมาณประตูที่มากขนาดนี้ ไม่เพียงเท่านั้น สถานที่เรียน พิชญฯ แชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังสวมบทจอมล้มยักษ์ ไล่มาตั้งแต่ปราบ จังหวัดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อติดอยู่เดมี ในรอบเลือกเฟ้นฯ เสมอสุพรรณ เอฟซี และก็เอาชนะ อัสสัมชัญ ศรีราชา ได้ในรอบชิงชนะเลิศประเทศ ทะลุเข้ามาสู่รอบรองชนะเลิศ

แม้กระนั้นกว่าจะมาถึงจุดที่พวกเขาได้เป็นกลุ่มเบอร์ 1 ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับเพื่อการชิงชัยคราวนี้ “สถานที่เรียนพิชญบัณฑิต” ก็จำเป็นต้องฝ่าฝันความทุกข์ยาก ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำ

เนื่องจากว่าขณะนั้น ไม่มีนักบอลเยาวชนฝีเท้าดี แม้กระทั้งผู้เดียว ที่พึงพอใจต้องการมาอยู่ตรงนี้ ? รวมทั้งจากจุดนั้น พวกเขายกฐานะตนเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

“ผมเป็นคนหนองบัวลำภูเขาแต่กำเนิด คำว่าบอลอาชีพกับหนองบัวลำภูเขา มันไกลห่างกันมากมาย เราไม่มีช่องทาง ไม่มีเคยได้รับการฝึกการสอนบอลอย่างถูกทาง” ศราวุธ เคนสกุลษา เฮดผู้ฝึกสอนกลุ่มเยาวชน รุ่น U-13 สถานที่เรียน พิชญฯ กล่าวเริ่ม

“มีคราวหนึ่ง ผมมาคัดเลือกตัวกับชมรมในจ.กรุงเทพฯ สหายบางบุคคลยังถามเลยว่า ‘หนองบัวลำภูเขา อยู่ที่ไหนของเมืองไทย’ พอเพียงพูดว่า อยู่ใกล้ๆจังหวัดอุดรธานี เขาถึงค่อยรู้จัก ในวันนั้นอาจไม่มีผู้ใดคิดหรอกว่า จังหวัดหนองบัวลำภูเขา จะสร้างบอลมาถึงจุดนี้ได้”

หนองบัวลำภูเขา จังหวัดเล็กๆที่แรกเริ่มมีฐานะเป็นเพียงแค่อำเภอหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ก่อนได้รับการเลื่อนฐานะเป็นจังหวัด เมื่อปี พุทธศักราช 2536 (จังหวัดลำดับที่ 76 ของเมืองไทย)

เนื่องจากว่าเป็นจังหวัดใหม่ รวมทั้งมีพื้นที่จังหวัดเล็กสุดชั้น 3 ของภาคอีสาน แถมยังมีพรมแดนใกล้กับ 3 จังหวัดใหญ่ที่มีความรุ่งเรือง ทั้งยัง จังหวัดอุดรธานี, ขอนแก่น, เลย ทำให้ หนองบัวลำภูเขา มักถูกละเลยในหลายๆด้าน รวมทั้งด้านกีฬา

“ยุคที่ผมเป็นนักบอลเล่นให้กลุ่มถิ่นกำเนิด (หนองบัวลำภูเขา เอฟซี) ก็เคยถูกผู้เล่นกลุ่มหัวตารางลบหลู่ดูหมิ่นว่า ‘พวกเอ็งจะเล่นเป็นจริงเป็นจังไปเพราะอะไร อย่างไรหนองบัวฯ ก็ไปไหนมิได้อยู่แล้ว’ มันเป็นความรู้สึกที่เก็บอยู่ในใจลึกๆว่า เมื่อไรจะมีคนมาลงทุนสร้างกลุ่มบอล ที่ทำให้ทุกคนสารภาพในจังหวัดพวกเราพลาดท่า”ในสมัยที่ลีกรากต้นหญ้ากำลังรุ่งเรือง หนองบัวลำภูเขา เอฟซี เป็นภาพสะท้อนข้อเท็จจริงของจังหวัด ได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาเป็นเพียงแต่กลุ่มสมันน้อย ในลีกดิวิชั่น 2 (เดิม) โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มักลงเลยด้วยตำแหน่งกลุ่มด้านหลังตาราง อยู่เป็นประจำทุกปี

จนกระทั่งปี 2014 มีการเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นในจังหวัดหนองบัวลำภูเขา เมื่อผู้ครอบครองโรงเรียนเอกชน “วิทยาลัยพิชญบัณฑิต” รวมทั้งสถานศึกษาพิชญบัณฑิต อย่าง สุเทพ ภู่มงคลสุริยน ได้เข้ามาเทคโอเวอร์สมาพันธ์ กับแปลงชื่อกลุ่มเป็น หนองบัว พิชญบัณฑิตเอฟซี

พิชญบัณฑิต

หนึ่งในองค์ประกอบ ที่ผู้บริหารสมาพันธ์ และก็ข้างเคล็ดลับ นำโดย ชัชชัย พหลหมอ, ธีระเวคิน สีหะสกุล, สุริยดงษ์ หินผาปฏิพัทย์ รวมทั้ง จีระเดโช กาญจน์พระพรหม มองเห็นด้วยกัน เป็น การลงมือกระทำอค้างเดมีบอล เพื่อสร้างเยาวชนขึ้นสู่กลุ่มชุดใหญ่ ซึ่งเป็นแถวทางที่ยืนนานของวิธีการทำสมาพันธ์อาชีพ

โดยนักเตะเยาวชนทุกคน ที่เข้ามาอยู่ในอติดอยู่เดมี จะได้รับการฝึกการสอนบอล, มีบ้านพัก รวมทั้งของกินฟรี กับโควต้าเรียนฟรีที่ สถานศึกษาพิชญฯ โรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ของจังหวัด

นอกเหนือจากนั้น นักเตะที่มีแววในแต่ละรุ่น จะได้รับคำสัญญานักเตะอาชีพ และก็ค่าจ้างรายเดือนจากสมาพันธ์หนองบัว พิชญ เอฟซี ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นกลุ่มชุดใหญ่

รวมทั้งวันแรกของการคัดเลือกตัวเยาวชนไปสู่อติดอยู่เดมีก็มาถึง…ข้อตกลงของสมาพันธ์ อยากได้เพียงแต่เด็กที่มีใจรักสำหรับเพื่อการเล่นบอลเข้ามาฝึกหัดปรับปรุงร่วมกัน โดยที่มิได้มองหาเพียงแค่เด็กเก่ง แต่เพียงเพียงแค่เริ่ม อค้างเดมีที่นี้ก็จำเป็นต้องเจอกับความยุ่งยากในทันที

ความมั่นใจ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ช่วงเวลาสำหรับในการสร้างและก็พิสูจน์ พิชญฯ เริ่มเบาๆสร้างฐานรากของอติดอยู่เดมี ตั้งแต่สนามฝึกหัด ที่เดิมทีจำต้องฝึกซ้อมในโรงยิม ก็เบาๆขยับขยายเพิ่มเติม ในพื้นที่บริเวณสถานศึกษา จนบัดนี้มีสนามจริง 8 สนาม, สนามเทียม 3 สนาม อาคารขนาดใหญ่สำหรับเป็นบ้านพักนักกีฬา และอุปกรณ์สำหรับอำนวยความสะดวกต่างๆ

ตอนที่พนักงานครูฝึกทุกคน ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากสมาคม ส่งเรียนวิชาชีพผู้ฝึกสอนตามหลักสูตร เอเอฟซี เพื่อปรับปรุงความสามารถของอาจารย์ ให้มีวิชาความรู้ ภายใต้ขั้นตอนการเล่นที่สร้างสรรค์ขึ้นมาในชื่อ “หนองบัวโลนา” ที่เน้นย้ำหัวข้อการความคล่องตัว การเคลื่อนที่ การผ่านบอล ส่งบอล ที่มีคุณภาพ

ปัจจุบันนี้ อติดอยู่เดมีของ หนองบัว พิชญ เอฟซี มีเด็กอยู่สำหรับเพื่อการดูแลมากยิ่งกว่า 200 คน แบ่งได้เป็น 9 รุ่น ตามอายุ (11-19 ปี) ซึ่งผลิตผลเริ่มออกดอกผลในปีที่ 3 ของแนวทางการทำอติดอยู่เดมี

“สถานที่เรียนพิชญฯ เริ่มรู้เรื่องพึงพอใจ เพราะเหตุว่าผลงานของพวกเรา จากที่เคยเล่น ยูธ ลีก โดนยิงนัดหมายหนึ่ง 7-8 ลูก จบชั้น 8 จาก 10 กลุ่ม ปีที่ล่วงเลยไป พวกเราได้แชมป์โซนดูเหมือนจะทุกรุ่น ทั้งยัง U-13, U-15, U-19 ส่วน U-17 พวกเราได้แชมป์ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ปิโตรเลียม คัพ รวมทั้ง รุ่นนี้ (U-13) ก็ได้แชมป์ ไพรศรีม์ ไม่นิสเตอร์ คัพ ปีที่ผ่านมา ยิ่งมีเด็กก้าวขึ้นไปติดกลุ่มชาติ ระดับเยาวชนทุกรุ่น ก็ทำให้ผู้คนเริ่มสารภาพในทางของพวกเรา ปัจจุบันก็มีเด็กในอค้างเดมี ได้ไปอยู่ เลสเตอร์ สิตี้ด้วย”

“คนภายในจังหวัดหนองบัวฯ เริ่มมีมุมมองต่อบอลแปรไป บางบุคคลลูกก็ให้ลูกฝึกหัดบอลตั้งแต่อายุยังน้อย บางบุคคลมองเห็นผมทำทีมได้แชมป์ ก็ต้องการเอาลูกมาฝาก แต่ว่าผมก็บอกเขาว่า ถ้าหากเพียงแค่ต้องการให้ลูกลงแข่งขัน อย่าพามา หากต้องการให้ลูกปรับปรุง ค่อยพามาอยู่ตรงนี้”

“เพราะเหตุว่าอค้างเดมีพวกเรามิได้ต้องการจะเป็นแชมป์สิ่งเดียว แต่ว่าพวกเราอยากได้ปรับปรุงเด็กในทุกๆด้าน เด็กทุกคนจำต้องอยู่ในกฎ กฎระเบียบ มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะ มีสัมมาคารวะ รู้จักพระคุณคน ด้วยเหตุว่าในที่สุด ความรู้ความเข้าใจของเด็กบางบุคคล บางทีอาจมิได้ต่อยอดสำหรับในการเล่นบอลอาชีพ แต่ว่าพวกเราต้องการให้เขาจบออกไปอย่างมีคุณภาพ”

สนใจสมัครสมาชิก
หน้าหลักสมัคร
โปรโมชั่นติดต่อเรา